วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558


บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 14


วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน 2558


Knowledge 

ขนมโค 

นวดแป้งใส่สีตามต้องการ หลังจากนั้นใส่ไส้ เอาลงหม้อรอจนกว่าจะลอยขึ้นแล้วนำไปคลุกมะพร้าว

การกำหนดปัญหา
-ทำอย่างไรให้แป้งกินได้

การตั้งสมมติฐาน
-เมื่อนำขนมโคไปต้มแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

 การรวบรวมข้อมูล
-สังเกตการเปลี่ยนแปลงของ สี ขนาด รูปทรงต่างๆ ของขนมโค

สรุปผล
-เด็กได้รู้ว่าขนมโคสุกได้อย่างไรเเละควรใช้เวลาเท่าไหร่ในการต้มถึงจะได้เป็นสีที่น่าทาน แล้วนำขนมโคที่ได้ไปคลุกมะพร้าว









หวานเย็น  

         จัดแบบเป็นกลุ่ม ผสมน้ำหวาน เอาน้ำแข็งใส่กะละมัง ใส่เกลือ ข้นจนกว่าน้ำแดงจะกลายเป็นน้ำแข็งเกล็ด

การกำหนดปัญหา
-ทำอย่างไรให้น้ำหวานกลายเป็นหวานเย็นได้

การตั้งสมมติฐาน
-
 ถ้าครูเอาน้ำหวานใส่ลงไปในกะละมังที่มีน้ำแข็งและเกลือ มันจะเกิดอะไรขึ้น

 การรวบรวมข้อมูล
-
เด็กๆ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของน้ำหวานที่เกิดขึ้น

สรุปผล
-
เด็กๆ ได้รู้ว่าเมื่อน้ำหวานโดนความเย็น ทำให้น้ำหวานกลายเป็นหวานเย็น







ข้าวจี่  
       ปั้นข้าวเหนียวเป็นรูปทรงต่างๆตามที่ต้องการและใส่ใส้ตามต้องการ หลังจากนั้นนำไปปิ้งให้ข้าวแข็งเริ่มเปลี่ยนสี แล้วทาไข่  


การกำหนดปัญหา
-ทำอย่างไรให้ไข่สุก หรือ ทำอย่างไรไข่ถึงจะกินได้

การตั้งสมมติฐาน
-
 เมื่อข้าวชุบไข่โดนความร้อนของเตาจะเป็นอย่างไร?

 การรวบรวมข้อมูล
-
เมื่อทำเสร็จเเล้วก็เอาของเด็กเเต่ละคนมาวางเรียงกันเราก็จะรู้ว่าเเต่ละจานนั้นมีสีที่ต่างกันขึ้นอยู่กับเวลาที่เด็กเอาข้าวจี่ปิ้งในเตานานเเค่ไหนถ้าปล่อยไว้นานสีก็จะเหลืองเข้มๆถ้าปล่อยไว้ไม่นานสีก็จะเหลืองอ่อน

สรุปผล
-
ข้าวจี่ชุปไข่สุกได้อย่างไรเเละควรใช้เวลาเท่าไหร่ในการปิ้งถึงจะได้กินเป็นสีที่น่าทาน















นำเสนอโทรทัศน์ครู


                เลขที่ 7  นางสาวกมลรัตน์  มาลัย   เรื่องดินน้ำมันลอยได้อย่างไร ?


        สรุปได้ว่า ครูสร้างความสนใจให้กับเด็กโดยการให้เด็กไปเก็บสิ่งต่างๆรอบโรงเรียนแล้วเอามาจำแนกแบ่งว่า อะไรลอยน้ำได้ จมน้ำบ้าง แล้วนำมาทดลอง ปรากฎว่ามีเด็กในห้องคนหนึ่งหยิบดินน้ำมันขึ้นมาแล้วเอาไปลอยน้ำปรากฎว่าดินน้ำมันมันจมน้ำเด็กจึงการสงสัยว่าจะทำอย่างไรให้ดินน้ำมันลอยน้ำได้ ครูจึงวางแผนโดยทำใบงานวิทยาศาสตร์และแจกให้กับเด็กๆ โดยให้เด็กรู้จักการคาดคะเนก่อนว่า ดินน้ำมันที่นำมาจะเป็นรูปร่างอะไร เปลี่ยนแปลงจากรูปสี่เหลี่ยมแล้วจะปั้นเป้นรูปอะไรให้ออกแบบเอง เด็กเคยเห็นเรือลอยน้ำได้ เด็กก็จะออกแบบวาดภาพเรือ แล้วก็จะปั้นตามที่ออกแบบ

        พอทดลองปรากฎว่าเรือลอยน้ำได้ แล้วเด็กก้จะนำเสนอผลงานว่ากลุ่มปั้นอะไร ลอยได้หรือไม่ แล้วให้เทคนิคกับเพื่อนว่าทำอย่างไรดินน้ำมันจึงลอยน้ำได้ และแก้ปัญหาโดยการปั้นขอบให้สูงขึ้นดินน้ำมันก้จะลอยน้ำได้จากกิจกรรมเด็กจะได้ทักษะ การสังเกต สี รูปทรง ของดินน้ำมัน เมื่อปั้นแล้วเปลี่ยนแปลงรูปเป็นอะไรถึงลอยน้ำได้ที่สำคัญเด็กได้ลงมือปฎิบัติจริงทำด้วยตนเองและได้ออกแบบจากการคิดของเด็กเองซึ่งการออกแบบเกิดจากการตั้งสมมติฐานของเด็กความคาดเดาของเด็กและยังได้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คือการสังเกต สื่อความหมาย ตั้งสมมติฐาน ทดลองปฎิบัติจริง ได้ลงความเห็นว่าสิ่งที่ทดลองเป็นจริง




Skills 


- การสังเกต
- การแก้ปัญหา
- การจำแนก
- การสื่อความหมาย
- การลงความเห็น
- มิติสัมพันธ์ (สเปส กับ เวลา)
- การคำนวณ


Apply

               นำวิธีการทำcooking ไปสอนเด็กได้ สามารถบอกเด็กได้ว่าเราควรเริ่มจากขั้นไหนก่อนเเละต่อๆไปเป็นอะไร ให้เด็กได้รู้จักวิธีการทำเป็นฐานและการทำเป็นกลุ่ม รู้จักการทำอย่างเป็นขั้นตอนและได้เด็กได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง

Teaching  Techniques
-การใช้คำถามให้นักศึกษาได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
-การอธิบาย ยกตัวอย่าง
-การสังเคราะห์-วิเคราะห์
-การลงมือปฏิบัติ
-วิเคราะห์แผนการสอน


Evaluation

Teacher  :: เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ อธิบายเนื้อหาในการสอนได้ละเอียดเข้าใจได้ง่าย
Friends  :  แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
Self  :  เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบนร้อย มีการจดบันทึกในการเรียน ต้้งใจเรียน









วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558


บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 13


วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน 2558

Knowledge 


ทำวาฟเฟิล (Waffle)


วิธีทำ / How To

1.นำไข่ไก่ น้ำและแป้งใส่ภาชนะมาผสมแล้วตีส่วนผสมให้เข้ากัน
2.หยอดแป้งลงบนพิมพ์วาฟเฟิลที่ทาเนยและร้อนดีแล้วจนเต็มพิมพ์
3.อบประมาณ 3-4 นาที เพียงเท่านี้ก็จะได้วาฟเฟิลแล้ว
4.ตกแต่งได้ตามใจชอบ
ทำทาโกะยากิ (Takoyaki )โดยทาโกะยากิได้ดัดแปลงจากแป้งเป็นข้าว ไส้ปูอัดและผัก โรยหน้าด้วยสาหร่าย การนำทาโกยากิไปใส่เตาได้เรียนรู้วิธีการพลิกทาโกยากิ ควรจะพลิกอย่างไรจึงจะได้ทาโกยากิในรูปร่างที่สวยงาม

การทำ cooking ได้ทักษะทางวิทยาศาสตร์ คือ การสังเกต การจำแนก การวัด เวลา สื่อความหมายและยังได้ทักษะการแก้ปัญหา























Skill
- การสังเกต
- การแก้ปัญหา
- การจำแนก
- การสื่อความหมาย
- การลงความเห็น
- มิติสัมพันธ์ (สเปส กับ เวลา)
- การคำนวณ


Apply

         นำวิธีการทำcooking เรื่องวาฟเฟิลไปสอนเด็กได้ สามารถบอกเด็กได้ว่าเราควรเริ่มจากขั้นไหนก่อน ให้เด็กได้รู้จักวิธีการวาฟเฟิลที่ถูกต้อง และการทำเป็นฐานๆ รู้จักการทำอย่างเป็นขั้นตอนและไห้เด็กได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง



Teaching Techniques 
1.ระดมความคิดจากเพื่อนในห้อง
2.ใช้คำถาม
3.การวัด
4.การวิเคราะห์ -สังเคราะห์
5.วิเคราะห์แผนการสอน
6.ใช้มายแม็ปปิ้ง



Evaluation

Teacher  - เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ อธิบายเนื้อหาในการสอนได้ละเอียดเข้าใจง่าย
Friends -แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
Self  -เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย มีการจดบันทึกในการเรียน








บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 12


วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน 2558

Knowledge 

 ตรวจแผนของกลุ่มตามหน่วย ดังนี้

1. หน่วยยานพาหนะ
2. หน่วยร่างกายของฉัน
3. หน่วยชุมชนของฉัน
4.หน่วยต้นไม้แสนรัก
5. หน่วยน้ำ


ทักษะทางวิทยาศาสตร์
-สังเกต
-จำแนก
-วัด
-สื่อความหมาย
-ลงความเห็น
-มิติสัมพันธ์
-คำนวณ

Skill
-การวิเคราะห์ สังเคราะห์
-การระดมความคิดและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น


Apply

1. สามารถนำการเขียนมายแม๊ปปิ้งที่ถูกต้องนำไปใช้ในการวางแผนการเขียนแผน หรือจดบันทึก

2.นำตัวอย่างการเขียนแผนการสอนของเพื่อนๆแต่ละกลุ่มมาเป็นตัวอย่าง หรือนำสิ่งที่ดีมาปรับใช้พอเป็นแนวทางในการเขียนแผนการสอนเด็กปฐมวัย

Teaching Techniques 

1. ใช้คำถาม
2. ระดมความคิดกับเพื่อนในห้องเรียน
3. การสังเคราะห์-วิเคราะห์
4. การวัด
5. วิเคราะห์แผนการสอน
6. ใช้กราฟฟิค / มายแม๊ปปิ้ง

Evaluation

Teacher  - เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ อธิบายเนื้อหาในการสอนได้ละเอียดเข้าใจง่าย
Friends -แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
Self  -เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย มีการจดบันทึกในการเรียน



บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 11


วันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2558

Knowledge 


กิจกรรมที่ 1    
     ดอกไม้ พับกระดาษแล้วตัดให้เป็น 4 กลีบ หลังจากนั้นนำลงน้ำพร้อมกันกับเพื่อนในกลุ่มแล้วสังกตว่าของใครจะจมน้ำก่อน เพราะอะไร และมีลักษณะดอกเป็นอย่างไร โดยมีหนึ่งคนคอยจดบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนและหลังการทดลองหลังจากนำดอกไม้ลอยน้ำแล้ว ปรากฏว่าเพื่อนที่ทำดอกไม้กลีบใหญ่เมื่อวางลงบนน้ำจะบานก่อนดอกไม้ของเพื่อนคนอื่นและเมื่อลอยนานๆสีที่ดอกไม้ก็จะค่อยๆละลายไปกับน้ำ



กิจกรรมที่ 2  
ทดลองโดยใช้ขวดน้ำอัดลม เจาะรู 3 รู  เติมน้ำให้เต็มขวด แล้วให้สังกตว่า รูไหนน้ำจะพุ่งออกมาได้ไกลสุด
           สรุปว่าหลังจากเติมน้ำเสร็จแล้ว รูที่อยู่ตรงกลางน้ำจะพุ่งออกมาได้ไกลที่สุด เพราะว่ามีแรงดันมากกว่ารูอื่น




















กิจกรรมที่ 3 
        ลูกยางกระดาษ  ใช้กระดาษคริปหนีบกระดาษตัดกระดาษเป็นสองแฉกพับฐานข้างล่างใช้คริปหนีบกระดาษหนีบตรงฐานแล้วทดลองโยนถ้าเราทำปีกตรงลูกยางกระดาษจะหมุนได้ดีแต่ถ้าทำปีกโค้งปีกของลูกยางจะไม่หมุน









 กิจกรรมที่ 4 
            ไหมพรมเต้นระบำ  ทดลองโดยใช้หลอดไหมพรม ตัดหลอดครึ่งหนึ่งแลวร้อยไหมพรม หลังจากนั้นเป่าไหมพรมสุดแรงก็จะเคลื่อนที่ และยิ่งเป่าแรงเท่าไรไหมพรมก็จะเต้นแรงเท่านั้น





กิจกรรมที่ 5  
          เทียนไข  ใช้แก้ว เทียนไข ถ้วย ไม้ขีด ทดลองโดยจุดเทียน  เทียนไขเมื่อเราใช้แก้วครอบเทียนไข ลักษณะของเปลวไฟจะค่อยหรี่ลงๆจนในที่สุดเทียนไขจะดับก็เพราะในอากาศมีออกซิเจนอยู่ซึ่งออกซิเจนมีคุณสมบัติที่ช่วยในการติดไฟ เมื่อเราครอบแก้วลงไปเทียนไขจะสามารถ ส่องสว่างต่อไปได้อีกสักครู่หนึ่งจนเมื่อออกซิเจนถูกเผาไหม้หมดเทียนไข ก็จะดับลงทันที

       ครั้งที่สองจุดเทียนแล้วเทน้ำรอบๆเทียน หลังจากนั้นนำแก้วไปครอบ แล้วสังเกตว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ปรากฏว่าเทียนก็จะค่อยๆดับแล้วน้ำก็จะเข้าไปในแก้ว เพราะเมื่อออกซิเจนที่มีภายในแก้วถูกใช้ในการเผาไหม้จนหมด(เทียนดับ)จึงทำให้ความดันอากาศภายในแก้วมีน้อยกว่าภายนอกแก้วความดันอากาศภายนอกจึงดันให้น้ำนอกแก้วไหลเข้าไปในแก้วที่มีความดันอากาศน้อยกว่า


Skills 

1. ทำกิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ และของเล่นวิทยาศาสตร์
2. คิด-วิเคราะห์ สังเคราะห์ในการเขียนสาระการเรียนรู้ และการทำ Cooking
3. ระดมความคิดการเขียนแผนการสอนการทดลอง และ การทำ Cooking
4. ทักษะการสังเกต
5 ระดมความคิดและแลกเปลี่ยนความคิดภายในกลุ่ม



Apply

1. สามารถนำการทดลอง หรือ ของเล่นวิทยาศาสตร์ มาประยุกต์ใช้และนำมาสอนเด็กในชีวิตประจำวันได้


Teaching Techniques 

1. ใช้คำถาม
2. ระดมความคิดกับเพื่อนในห้องเรียน
3. การวิเคาระห์ - สังเคราะห์
4. การยกตัวอย่างกิจกรรม
5. วิเคราะห์แผนการสอน


Evaluation

Teacher  :: เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ อธิบายเนื้อหาในการสอนได้ละเอียดเข้าใจได้ง่าย
Friends  :  แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
Self  :  เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบนร้อย มีการจดบันทึกในการเรียน ต้้งใจเรียน



วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558



บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 10


วันอังคารที่ 20 ตุลาคม 2558



Knowledge 

นำเสนอ วิจัย

นางสาวปรางชมพู บุญชม  

เรื่อง การพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ประกอบชุดแบบฝึกทักษะ

            วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมปัจจุบันและสังคมอนาคตเพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของทุกคนการเรียนวิทยาศาสตร์เป็นการเรียนการแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลซึ่งเรียกว่ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์เด็กปฐมวัยสามารถเรียนรู้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้โดยครูต้องใช้ประสบการณ์คิดและปฏิบัติการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยนั้นจะมาจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นหลักการเรียนรู้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบชุดแบบฝึกทักษะจึงเป็นรูปแบบหนึ่งในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่สามารถส่งเสริมและพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยได้ เด็กเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการสังเกตขณะที่เด็กเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีสื่ออย่างหลากหลายและทำชุดแบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ที่เน้นสมองเป็นฐานการเรียนรู้ในแต่ละครั้งเด็กได้นำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้อย่างต่อเนื่องทั้งทักษะการสังเกตการจำแนก การสื่อสารและการลงความคิดเห็นจึงส่งผลให้เด็กได้รับการพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างสมบูรณ์

นางสาวชนากานต์ แสนสุข

 เรื่อง การพัฒนาการเรียนการสอนของครูปฐมวัยโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสาตร์
  1. ครูเล่านิทาน เล่นริมน้ำและให้เด็กผลัดกันออกมาเล่าประสบการณ์เดิม

  2. ครูแบ่งกลุ่มเด็กเท่าๆกัน แจกขวดแชมพุ เปิดขวดแชมพูใส่น้ำให้เต็ม โดยการตั้งคำถาม เช่น ลักษณะของขวดเป็นอย่างไร  จากนั้นให้เด็กเรียงแถว แล้วบีบขวดจนน้ำในขวดหมด โดยสามารถเก็บข้อมูลเชิงสถิติจากการบีบขวดโดยการตั้งเกณฑ์ ว่าใครบีบได้ไกลและใกล้ 
เก็บตก เลขที่ 21 นางสาว รัตนาภรณ์  คงกะพันธ์

            เรื่อง  การคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์

สรุปได้ว่า

ปัญหา : วิจัยวิทยาศาสตร์ส่งผลต่อการคิดวิจารณญาณของเด็ก
ความหมาย/ความคำสำคัญ : เพื่อพัฒนาการคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ โดยการจำแนกหลายด้าน ดังนี้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การใช้เหตุผล การประเมินค่า
ประชากร : เด็กปฐมวัย อายุ 5-6 ปี
กลุ่มตัวอย่าง: เด็กปฐมวัยจำนวน 15 คน

กรอบแนวคิดการวิจัย





ระดมความคิดในการทำ  Cooking ซึ่งกลุ่มพวกเราได้รับมอบหมายให้ทำ "พิซซ่า"






ส่วนผสม
1.เห็ด
2.ใส้กรอก
3.แป้ง
4.สับปะรด
5.ซอสมะเขือเทศ
6.พริกหวาน
7.มายองเนส
8.อาริกาโน่
9.หอมหัวใหญ่
10.เนื้อสัตว์ต่างๆ

อุปกรณ์
1.มีด
2.เตาอบ
3.เขียง
4.จาน


วิธีการ
1.หั่นส่วนผสมเป็นชิ้นเล็ก เช่น ใส้กรอก มะเขือเทศ สับปะรด เป็นต้น 
2.ทาหน้าด้วยซอสมะเขือเทศ
3.โรยหน้าด้วยไส้กรอก ปูอัด ชีส ตามใจชอบ

Skill

-นำเสนองานวิจัย
-การวิเคราะห์ สังเคราะห์ แผนการสอนในงานวิจัย
-การระดมความคิดและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายในกลุ่มในการทำ Cooking


Apply

นำไปใช้ในการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยและเพื่อเด็กจะได้ทดลองทำด้วยตนเองพร้อมกับเพื่อนๆ

Teaching  Techniques

การใช้คำถามให้นักศึกษาได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
- การอธิบาย ยกตัวอย่างกิจกรรม
- วิเคราะห์แผนการสอน
-ระดมความคิดกับเพื่อนในห้อง



Evaluation


Teacher   
             -เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ อธิบายเนื้อหาในการสอนได้ละเอียดเข้าใจง่าย
Friends
             -แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
Self 
            -เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบนร้อย มีการจดบันทึกในการเรียน








วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 9

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2558

Knowledge 


นำเสนอ บทความ

นางสาวสุทธิการต์ กางพาพันธ์  

เรื่อง โลกของเราดำเนินอยู่ได้อย่างไร ?

  - กิจกรรมนี้ทำให้เด็กปฐมวัยตระหนักว่าพวกเขาสามารถหาความรู้ได้จากสิ่งแวดล้อม ตัวของพวกเขามีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมและร่วมสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ได้สำหรับกิจกรรมที่จัดทำจังหวัดสงขลานี้ มี 6 กิจกรรม ประกอบด้วย

  -กิจกรรม “หวานเย็นชื่นใจ” เด็กๆ ค้นพบว่าโดยปกติน้ำและน้ำหวานเป็นของเหลว เมื่อนำไปแช่ในน้ำแข็งที่ใส่เกลือซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ทำให้น้ำและน้ำหวานมีอุณหภูมิลดต่ำลงจนเปลี่ยนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
     -กิจกรรม “ความลับของดิน” เด็กๆ ช่วยกันทดลองเพื่อพิสูจน์ว่าดินมีองค์ประกอบเป็นหินที่ผุพังสลายตัว ซากพืชซากสัตว์ อากาศ และน้ำ ดังนั้น ส่วนที่เป็นของแข็งที่อยู่ในดินจึงมีขนาดแตกต่างกัน เมื่อเทน้ำลงไป อากาศก็จะออกมาจากดินเป็นฟองให้เห็น และจะพบว่าอนุภาคที่มีขนาดใหญ่จะตกตะกอนลงสู่ก้นภาชนะ และอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่าก็จะค่อยๆ ตกลงมาเนื่องจากแรงดึงดูดของโลก เมื่อการตกตะกอนสิ้นสุดลง จะมองเห็นดินเป็นชั้นๆ ส่วนซากพืชซากสัตว์ก็จะลอยอยู่บนผิวหน้าของน้ำ ทำให้เห็นองค์ประกอบของดินด้วย
  - กิจกรรม “ถึงร้อนก็อร่อยได้” ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานความร้อนและแสงสว่างของโลก พื้นผิวโลกที่มีลักษณะแตกต่างกันจะดูดกลืนพลังงานความร้อนไว้ได้ต่างกัน ซึ่งจะพบจากการสัมผัสแผ่นกระเบื้องสีดำและสีขาว ที่วางไว้กลางแจ้ง เมื่อเด็ก ๆ ขึ้นไปเหยียบบนแผ่นกระเบื้องสีดำ จะรู้สึกร้อนกว่าเพราะสีดำดูดกลืนพลังงานความร้อนไว้มากกว่า จึงถ่ายโอนความร้อนมายังเท้าของเรามากกว่า

นางสาวศุทธินี โนนริบูรณ์  
เรื่อง “เด็กอนุบาลเรียนรู้วิทย์แบบบูรณาการจากการล่องแก่ง”
         จุดเด่นของกิจกรรมนี้ คือ มีผู้ปกครองจากหลายสาขาอาชีพ และเจ้าหน้าที่รีสอร์ทมาร่วมเป็น
“พ่อครู แม่ครู” ร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ นอกจากความสนุกสนานที่ได้แล้ว เด็กยังได้พัฒนาทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน เช่น การตั้งคำถาม การคาดคะเน การสังเกต และลงความคิด
เห็น ทำให้เกิดการเรียนรู้ผ่านการสืบเสาะหาความรู้อย่างง่าย ๆ โดยผู้ปกครองมีส่วนร่วม และที่สำคัญ
คือได้ตระหนักถึงคุณค่าของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน เกิดจิตสำนึกอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวในชุมชนเอาไว้ให้ยั่งยืน

นางสาวเจนจิรา เทียมนิล 
 เรื่อง สอนลูกเรื่องแรงแม่เหล็ก (Teaching Children about Magnetic Force)
         การจัดกิจกรรมให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้ เกี่ยวกับวัตถุ ที่สามารถดูดเหล็กหรือวัตถุประเภทโลหะเข้าหาตัวเองได้เพราะมีแรง แต่คนเราไม่เห็นแรงที่ดูดนั้น ซึ่งแรงธรรมชาติที่เกิดจากแท่งแม่เหล็ก สามารถดูดวัตถุที่มีคุณสมบัติคล้ายแม่เหล็ก เช่น วัตถุจำพวกโลหะ เหล็ก นิกเกิล และไม่ดูดวัตถุที่คุณสมบัติตรงข้ามกับแม่เหล็ก เช่น ไม้ แก้ว พลาสติกจะเป็นเรื่องที่ท้าทายให้เด็กสนใจติดตามผลการทด ลอง และนำความรู้ไปสร้างสรรค์ของเล่นของใช้อย่างแน่นอน จึงเป็นเรื่องแปลกสำหรับเด็กปฐม วัย ชวนให้เด็กตื่นเต้นและเร้าใจของเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับธรรมชาติความอยากรู้อยากเห็นของเด็กปฐม วัย ประกอบกับคนเราได้ใช้แรงแม่เหล็กสร้างสรรค์เครื่องเล่นเครื่องใช้อย่างมากมาย


บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 8



วันอังคารที่ 6 ตุลาคม 2558


Knowledge 


นำเสนอ โทรทัศน์ครู 


นางสาววัชรี วงศ์สะอาด 
เรื่อง วัยอนุบาลเรียนวิทยาศาสตร์จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว   
จากข่าว  Family News Today

          ครูจะพาเด็ก ๆ สำรวจสิ่งแวดล้อมรอบตัวทุกเช้าหลังเข้าแถวเสร็จ  ครูจะพาเด็ก ๆ เดินสำรวจรอบ
โรงเรียน  เด็กจะได้ความเป็นนักวิทยาศาสตร์เริ่มจากการสังเกต วิธีการสอนจากการสำรวจจะเชื่อมโยงไปถึงหน่วยการเรียนรู้ในห้องเรียนด้วย เช่น คุณครูสอนเด็กเรื่อง หญ้าแฝกทำไมถึงกันดินทลายได้  ครูก็จะเชิญวิทยากรมาให้ความรู้กับเด็ก  และเด็กก็จะได้เรียนรู้โดยการปฏิบัติจริง  เด็กได้ลองเทน้ำลงไปในดินเปล่า  และดินที่มีหญ้า  เด็กก็จะเห็นถึงความแตกต่างกัน


นางสาวภัทรวรรณ หนูแก้ว เรื่อง นารีวุฒิ  บ้านวิทยาศาสตร์น้อย

            บ้านวิทยาศาสตร์น้อย จัดการเรียนการสอนทดลองวิทยาาสตร์ให้กับนักเรียนอนุบาลในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เพื่อส่งเสริมให้น้องอนุบาลได้รู้จักคิด ชังสังเกตเเละคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลโดยมีชั่วโมงการเรียนที่เป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์สอดเเทรกอยู่ในทุกๆวัน ในการทดลองนั้นจะมีอุปกรณ์ในการทดลองที่หาได้ง่ายไม่ซับซ้อนที่เด็กสามารถทดลองทำลงมือปฎิบัติผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ด้วยตนเองได้ โดยในทุกกิจกรรมจะมีคุณครูเป็นผู้ค่อยเสริมประสบการณ์ค่อยถามเด็กอยูู่เป็นระยะเพื่อให้เด็กได้คิดวิเคาระห์เเละสังเกต เปรียบเทียบที่จะตอบคำถามครูให้ได้กิจกรรมในการทดลองมีหลายกิจกรรม เช่น ตัวทำละลาย, ลอยนํ้าได้อย่างไร

หลอดดำนํ้า, จมหรือลอย, การกรองนํ้า, ฟองมหัศจรรย์, ไหลเเรงไหลค่อย เป็นต้น


ทำกิจกรรมกลุ่ม  

จัดทำหัวข้อที่จะสอนเด็กเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์โดยเเบ่งตามหน่วยทั้ง 4 หน่วย

หน่วยที่ 1  : ตัวเด็ก

หน่วยที่ 2  : เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก

หน่วยที่ 3 : บุคคลเเละสานที่

หน่วยที่ 4  : ธรรมชาติรอบตัว


Skill
  • การวิเคราะห์ สังเคราะห์
  • การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มเพื่อฝึกการรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน

Apply
  • สามารถนำไปบูรณาการได้
  • สามารถนำมายเเมบที่เราได้จัดทำไปสู่การเขียนแผนได้ในครั้งต่อไป  นำเอาสิ่งที่ได้จากการฟังโทรทัศน์ครูจากที่เพื่อนนำเสนอไปจัดกิจกรรมให้กับเด็กได้

  Techniques Teaching

  • การใช้คำถามให้นักศึกษาได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ การสังเคราะห์
  • การอธิบาย ยกตัวอย่าง


Evaluation
  • Teacher  :: เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ อธิบายเนื้อหาในการสอนได้ละเอียดเข้าใจ                          ได้ง่าย
  • Friends  :  แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
  • Self  :  เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบนร้อย มีการจดบันทึกในการเรียน ต้้งใจเรียน