วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558



บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 10


วันอังคารที่ 20 ตุลาคม 2558



Knowledge 

นำเสนอ วิจัย

นางสาวปรางชมพู บุญชม  

เรื่อง การพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ประกอบชุดแบบฝึกทักษะ

            วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมปัจจุบันและสังคมอนาคตเพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของทุกคนการเรียนวิทยาศาสตร์เป็นการเรียนการแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลซึ่งเรียกว่ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์เด็กปฐมวัยสามารถเรียนรู้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้โดยครูต้องใช้ประสบการณ์คิดและปฏิบัติการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยนั้นจะมาจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นหลักการเรียนรู้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบชุดแบบฝึกทักษะจึงเป็นรูปแบบหนึ่งในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่สามารถส่งเสริมและพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยได้ เด็กเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการสังเกตขณะที่เด็กเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีสื่ออย่างหลากหลายและทำชุดแบบฝึกทักษะวิทยาศาสตร์ที่เน้นสมองเป็นฐานการเรียนรู้ในแต่ละครั้งเด็กได้นำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้อย่างต่อเนื่องทั้งทักษะการสังเกตการจำแนก การสื่อสารและการลงความคิดเห็นจึงส่งผลให้เด็กได้รับการพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างสมบูรณ์

นางสาวชนากานต์ แสนสุข

 เรื่อง การพัฒนาการเรียนการสอนของครูปฐมวัยโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสาตร์
  1. ครูเล่านิทาน เล่นริมน้ำและให้เด็กผลัดกันออกมาเล่าประสบการณ์เดิม

  2. ครูแบ่งกลุ่มเด็กเท่าๆกัน แจกขวดแชมพุ เปิดขวดแชมพูใส่น้ำให้เต็ม โดยการตั้งคำถาม เช่น ลักษณะของขวดเป็นอย่างไร  จากนั้นให้เด็กเรียงแถว แล้วบีบขวดจนน้ำในขวดหมด โดยสามารถเก็บข้อมูลเชิงสถิติจากการบีบขวดโดยการตั้งเกณฑ์ ว่าใครบีบได้ไกลและใกล้ 
เก็บตก เลขที่ 21 นางสาว รัตนาภรณ์  คงกะพันธ์

            เรื่อง  การคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์

สรุปได้ว่า

ปัญหา : วิจัยวิทยาศาสตร์ส่งผลต่อการคิดวิจารณญาณของเด็ก
ความหมาย/ความคำสำคัญ : เพื่อพัฒนาการคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ โดยการจำแนกหลายด้าน ดังนี้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การใช้เหตุผล การประเมินค่า
ประชากร : เด็กปฐมวัย อายุ 5-6 ปี
กลุ่มตัวอย่าง: เด็กปฐมวัยจำนวน 15 คน

กรอบแนวคิดการวิจัย





ระดมความคิดในการทำ  Cooking ซึ่งกลุ่มพวกเราได้รับมอบหมายให้ทำ "พิซซ่า"






ส่วนผสม
1.เห็ด
2.ใส้กรอก
3.แป้ง
4.สับปะรด
5.ซอสมะเขือเทศ
6.พริกหวาน
7.มายองเนส
8.อาริกาโน่
9.หอมหัวใหญ่
10.เนื้อสัตว์ต่างๆ

อุปกรณ์
1.มีด
2.เตาอบ
3.เขียง
4.จาน


วิธีการ
1.หั่นส่วนผสมเป็นชิ้นเล็ก เช่น ใส้กรอก มะเขือเทศ สับปะรด เป็นต้น 
2.ทาหน้าด้วยซอสมะเขือเทศ
3.โรยหน้าด้วยไส้กรอก ปูอัด ชีส ตามใจชอบ

Skill

-นำเสนองานวิจัย
-การวิเคราะห์ สังเคราะห์ แผนการสอนในงานวิจัย
-การระดมความคิดและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายในกลุ่มในการทำ Cooking


Apply

นำไปใช้ในการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยและเพื่อเด็กจะได้ทดลองทำด้วยตนเองพร้อมกับเพื่อนๆ

Teaching  Techniques

การใช้คำถามให้นักศึกษาได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
- การอธิบาย ยกตัวอย่างกิจกรรม
- วิเคราะห์แผนการสอน
-ระดมความคิดกับเพื่อนในห้อง



Evaluation


Teacher   
             -เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ อธิบายเนื้อหาในการสอนได้ละเอียดเข้าใจง่าย
Friends
             -แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
Self 
            -เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบนร้อย มีการจดบันทึกในการเรียน








วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 9

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2558

Knowledge 


นำเสนอ บทความ

นางสาวสุทธิการต์ กางพาพันธ์  

เรื่อง โลกของเราดำเนินอยู่ได้อย่างไร ?

  - กิจกรรมนี้ทำให้เด็กปฐมวัยตระหนักว่าพวกเขาสามารถหาความรู้ได้จากสิ่งแวดล้อม ตัวของพวกเขามีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมและร่วมสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ได้สำหรับกิจกรรมที่จัดทำจังหวัดสงขลานี้ มี 6 กิจกรรม ประกอบด้วย

  -กิจกรรม “หวานเย็นชื่นใจ” เด็กๆ ค้นพบว่าโดยปกติน้ำและน้ำหวานเป็นของเหลว เมื่อนำไปแช่ในน้ำแข็งที่ใส่เกลือซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ทำให้น้ำและน้ำหวานมีอุณหภูมิลดต่ำลงจนเปลี่ยนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
     -กิจกรรม “ความลับของดิน” เด็กๆ ช่วยกันทดลองเพื่อพิสูจน์ว่าดินมีองค์ประกอบเป็นหินที่ผุพังสลายตัว ซากพืชซากสัตว์ อากาศ และน้ำ ดังนั้น ส่วนที่เป็นของแข็งที่อยู่ในดินจึงมีขนาดแตกต่างกัน เมื่อเทน้ำลงไป อากาศก็จะออกมาจากดินเป็นฟองให้เห็น และจะพบว่าอนุภาคที่มีขนาดใหญ่จะตกตะกอนลงสู่ก้นภาชนะ และอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่าก็จะค่อยๆ ตกลงมาเนื่องจากแรงดึงดูดของโลก เมื่อการตกตะกอนสิ้นสุดลง จะมองเห็นดินเป็นชั้นๆ ส่วนซากพืชซากสัตว์ก็จะลอยอยู่บนผิวหน้าของน้ำ ทำให้เห็นองค์ประกอบของดินด้วย
  - กิจกรรม “ถึงร้อนก็อร่อยได้” ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานความร้อนและแสงสว่างของโลก พื้นผิวโลกที่มีลักษณะแตกต่างกันจะดูดกลืนพลังงานความร้อนไว้ได้ต่างกัน ซึ่งจะพบจากการสัมผัสแผ่นกระเบื้องสีดำและสีขาว ที่วางไว้กลางแจ้ง เมื่อเด็ก ๆ ขึ้นไปเหยียบบนแผ่นกระเบื้องสีดำ จะรู้สึกร้อนกว่าเพราะสีดำดูดกลืนพลังงานความร้อนไว้มากกว่า จึงถ่ายโอนความร้อนมายังเท้าของเรามากกว่า

นางสาวศุทธินี โนนริบูรณ์  
เรื่อง “เด็กอนุบาลเรียนรู้วิทย์แบบบูรณาการจากการล่องแก่ง”
         จุดเด่นของกิจกรรมนี้ คือ มีผู้ปกครองจากหลายสาขาอาชีพ และเจ้าหน้าที่รีสอร์ทมาร่วมเป็น
“พ่อครู แม่ครู” ร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ นอกจากความสนุกสนานที่ได้แล้ว เด็กยังได้พัฒนาทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน เช่น การตั้งคำถาม การคาดคะเน การสังเกต และลงความคิด
เห็น ทำให้เกิดการเรียนรู้ผ่านการสืบเสาะหาความรู้อย่างง่าย ๆ โดยผู้ปกครองมีส่วนร่วม และที่สำคัญ
คือได้ตระหนักถึงคุณค่าของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน เกิดจิตสำนึกอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวในชุมชนเอาไว้ให้ยั่งยืน

นางสาวเจนจิรา เทียมนิล 
 เรื่อง สอนลูกเรื่องแรงแม่เหล็ก (Teaching Children about Magnetic Force)
         การจัดกิจกรรมให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้ เกี่ยวกับวัตถุ ที่สามารถดูดเหล็กหรือวัตถุประเภทโลหะเข้าหาตัวเองได้เพราะมีแรง แต่คนเราไม่เห็นแรงที่ดูดนั้น ซึ่งแรงธรรมชาติที่เกิดจากแท่งแม่เหล็ก สามารถดูดวัตถุที่มีคุณสมบัติคล้ายแม่เหล็ก เช่น วัตถุจำพวกโลหะ เหล็ก นิกเกิล และไม่ดูดวัตถุที่คุณสมบัติตรงข้ามกับแม่เหล็ก เช่น ไม้ แก้ว พลาสติกจะเป็นเรื่องที่ท้าทายให้เด็กสนใจติดตามผลการทด ลอง และนำความรู้ไปสร้างสรรค์ของเล่นของใช้อย่างแน่นอน จึงเป็นเรื่องแปลกสำหรับเด็กปฐม วัย ชวนให้เด็กตื่นเต้นและเร้าใจของเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับธรรมชาติความอยากรู้อยากเห็นของเด็กปฐม วัย ประกอบกับคนเราได้ใช้แรงแม่เหล็กสร้างสรรค์เครื่องเล่นเครื่องใช้อย่างมากมาย


บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 8



วันอังคารที่ 6 ตุลาคม 2558


Knowledge 


นำเสนอ โทรทัศน์ครู 


นางสาววัชรี วงศ์สะอาด 
เรื่อง วัยอนุบาลเรียนวิทยาศาสตร์จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว   
จากข่าว  Family News Today

          ครูจะพาเด็ก ๆ สำรวจสิ่งแวดล้อมรอบตัวทุกเช้าหลังเข้าแถวเสร็จ  ครูจะพาเด็ก ๆ เดินสำรวจรอบ
โรงเรียน  เด็กจะได้ความเป็นนักวิทยาศาสตร์เริ่มจากการสังเกต วิธีการสอนจากการสำรวจจะเชื่อมโยงไปถึงหน่วยการเรียนรู้ในห้องเรียนด้วย เช่น คุณครูสอนเด็กเรื่อง หญ้าแฝกทำไมถึงกันดินทลายได้  ครูก็จะเชิญวิทยากรมาให้ความรู้กับเด็ก  และเด็กก็จะได้เรียนรู้โดยการปฏิบัติจริง  เด็กได้ลองเทน้ำลงไปในดินเปล่า  และดินที่มีหญ้า  เด็กก็จะเห็นถึงความแตกต่างกัน


นางสาวภัทรวรรณ หนูแก้ว เรื่อง นารีวุฒิ  บ้านวิทยาศาสตร์น้อย

            บ้านวิทยาศาสตร์น้อย จัดการเรียนการสอนทดลองวิทยาาสตร์ให้กับนักเรียนอนุบาลในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เพื่อส่งเสริมให้น้องอนุบาลได้รู้จักคิด ชังสังเกตเเละคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลโดยมีชั่วโมงการเรียนที่เป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์สอดเเทรกอยู่ในทุกๆวัน ในการทดลองนั้นจะมีอุปกรณ์ในการทดลองที่หาได้ง่ายไม่ซับซ้อนที่เด็กสามารถทดลองทำลงมือปฎิบัติผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ด้วยตนเองได้ โดยในทุกกิจกรรมจะมีคุณครูเป็นผู้ค่อยเสริมประสบการณ์ค่อยถามเด็กอยูู่เป็นระยะเพื่อให้เด็กได้คิดวิเคาระห์เเละสังเกต เปรียบเทียบที่จะตอบคำถามครูให้ได้กิจกรรมในการทดลองมีหลายกิจกรรม เช่น ตัวทำละลาย, ลอยนํ้าได้อย่างไร

หลอดดำนํ้า, จมหรือลอย, การกรองนํ้า, ฟองมหัศจรรย์, ไหลเเรงไหลค่อย เป็นต้น


ทำกิจกรรมกลุ่ม  

จัดทำหัวข้อที่จะสอนเด็กเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์โดยเเบ่งตามหน่วยทั้ง 4 หน่วย

หน่วยที่ 1  : ตัวเด็ก

หน่วยที่ 2  : เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก

หน่วยที่ 3 : บุคคลเเละสานที่

หน่วยที่ 4  : ธรรมชาติรอบตัว


Skill
  • การวิเคราะห์ สังเคราะห์
  • การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มเพื่อฝึกการรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน

Apply
  • สามารถนำไปบูรณาการได้
  • สามารถนำมายเเมบที่เราได้จัดทำไปสู่การเขียนแผนได้ในครั้งต่อไป  นำเอาสิ่งที่ได้จากการฟังโทรทัศน์ครูจากที่เพื่อนนำเสนอไปจัดกิจกรรมให้กับเด็กได้

  Techniques Teaching

  • การใช้คำถามให้นักศึกษาได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ การสังเคราะห์
  • การอธิบาย ยกตัวอย่าง


Evaluation
  • Teacher  :: เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ อธิบายเนื้อหาในการสอนได้ละเอียดเข้าใจ                          ได้ง่าย
  • Friends  :  แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
  • Self  :  เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบนร้อย มีการจดบันทึกในการเรียน ต้้งใจเรียน







วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558



  สรุป  ความรู้จากโทรทัศน์ครู
           
เรื่อง "กิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก"
โดย : ครูพงศกร  ไสยเพชร

           กิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กกระตุ้นให้เด็กเรียนรู้ด้วยของเล่นเเละการทดลองจากหลักวิทยาศาสตร์โดยของเล่นเเละการทดลองควรใช้ของที่หาได้ง่าย ๆ เพื่อให้เด็กมีโอกาสลงมือทำด้วยตนเอง โดยของเล่นที่ครูประดิษฐ์เป็นตัวอย่างให้เด็ก ๆ ดู มีดังนี้


ตัวอย่างที่ 1 การทดลองเรื่องเเรงลอยตัว โดยประดิษฐ์สื่อของเล่น : นักดำน้ำจากหลอดกาแฟ


           โดยที่หลอดลอยตัวได้ เพราะ มีอากาศที่ถูกกักเก็บไว้ เเรงลอยตัวเท่ากับน้ำหนักของน้ำที่ถูกอากาศแทนที่ เมื่อบีบขวดความดันภายในขวดจะเพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาตรอากาศเล็กลง เเรงลอยตัวจึงลดลงตามปริมาตรอากาศ หลอดจึงจมลง เมื่อคลายมือความดันในขวดจะลดลง เมื่อความดันอากาศลดลงปริมาตรอากาศก็จะเพิ่มขึ้น เเรงลอยตัวก็เพิ่มขึ้นตามปริมาตรอากาศหลอดจึงลอยตัวขึ้น


ตัวอย่างที่ 2 ความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วของอากาศเเละความดันของอากาศ  

โดยประดิษฐ์สื่อของเล่น : เลี้ยงลูกด้วยลม
         
            โดยธรรมชาติของอากาศ ที่ใดอากาศไหลเร็ว ความดันอากาศเเถวนั้นจะน้อย ดังนั้นถ้าบริเวณอื่นที่อยู่รอบ ๆ มีความดันอากาศมากกว่า ก็จะมีลมวิ่งจากที่ความดันเข้าหาที่ความดันน้อยกว่า (หลักการของเบอร์นูลลี) เมื่อเราเป่าลมได้ลูกบอล แรงลมจะผลักลูกบอลให้ลอยขึ้น ลมที่โคนด้านล่างของลูกบอลจะไหลไปด้านข้าง ๆ ขึ้นไปสู่ข้างบน ทำให้มีเเรงผลักอยู่รอบ ๆ บริเวณลูกบอลที่มีลมเป่าขึ้น

ตัวอย่างที่ 3 ถุงพลาสติกมหัศจรรย์  


             ทดลองโดยการใช้ดินสอเเทงถุงน้ำพลาสติกค่อย ๆ เเทงดินสอเข้าไป เมื่อทะลุเข้าไปเเล้ว เนื้อพลาสติกที่มีโครงสร้างเป็นตาข่ายที่ขยายกว้างขึ้นจะรวบติดกับตัวดินสอทำให้น้ำไม่สามารถไหลออกมาได้


ตัวอย่างที่ 4 ความดันยกของ 


             โดยครูใช้คำถามชวนให้เด็กคิดว่าเราจะสามารถยกสมุดรวมทั้งสิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างไร จากนั้นครูจะช่วยเด็ก ๆ คิดให้ใกล้เคียงกับความจริงโดยวางถุงพลาสติกลงบนโต๊ะเเล้วสาธิตให้เด็กดูโดยใช้สมุดวางทับเเล้วเป่าลมเข้าไปในถุงพลาสติก เมื่อลมเข้าไปอยู่ในถุงพลาสติกแล้วสมุดจะค่อย ๆ ลอยตัวขึ้น หลังจากนั้นให้เด็ก ๆ ลองทำด้วยตนเอง เเละลองสาธิตเปลี่ยนสิ่งของที่ต้องการเคลื่อนย้ายไปเรื่อย เช่น กระเป๋า โต๊ะ เก้าอี้


สรุปงานวิจัย


ชื่อวิจัย ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย

ผู้แต่งสำรวย   สุขชัย

ความมุ่งหมายของการวิจัย

    1. เพื่อศึกษาระดับพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย โดยรวมและจำแนกรายทักษะก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
    2. เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตรของเด็กปฐมวัย โดยรวมและจำแนกรายทักษะก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
    3. เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยจำแนกรายทักษะ

กลุ่มตัวอย่าง

         กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นเด็กปฐมวัย ชาย - หญิง อายุระหว่าง 5 - 6 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนวัดยางสุทธาราม แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย สังกัดสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 1 ห้องเรียน ในระหว่างการทดลองผู้ปกครองพาเด็กปฐมวัยในกลุ่มทดลองลากลับภูมิลำเนา 3 คน กลุ่มตัวอย่างเด็กปฐมวัยในการทดลองครั้งนี้ จึงมีเพียง 27 คน

ตัวแปรที่ศึกษา

      1. ตัวแปรอิสระ ได้แก่ การจัดการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับเด็กปฐมวัย
      2. ตัวแปรตาม   ได้แก่  ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย 3 ทักษะ ประกอบด้วย
           2.1 ทักษะการจำแนกประเภท
           2.2 ทักษะการสื่อความหมาย
           2.3 ทักษะการลงความเห็น

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

      1. แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
      2. แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

สรุปผลวิจัย

        ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย หลังได้รับการจัดการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.1 



บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 7

วันอังคารที่ 22 กันยายน 2558

Knowledge 




นำเสนองานวิจัย


นางสาววราภรณ์ แทนคำ  
เรื่อง การสร้างชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์


ชื่อผู้วิจัย : จุฑามาศ เรือนกำ 

         สร้างชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์โดยการวิเคราะห์และเลือกหน่วยการเรียนรู้จำนวน 5 หน่วย ที่ใกล้ตัวเด็กและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน คือ หน่วยสัตว์เลี้ยงแสนดี ผลไม้น่าทาน ต้นไม้เพื่อนรัก ดอกไม้แสนสวยและวิทยาศาสตร์น่ารู้  และนำมาสร้างชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กให้ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การสังเกต จำแนกประเภท การวัดและการหามิติสัมพันธ์ 



นางสาวรัตนาภรณ์ คงกะพันธ์   
เรื่อง  การคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์


 ชื่อผู้วิจัย : เสกสรร มาตวังแสง 


          ในการวิจัยครั้งนี้เปนการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Research) ซึ่งทําการศึกษากับกลุมตัวอยางที่เปนเด็กปฐมวัย โดยผูวิจัยสรางความคุนเคยกับกลุมตัวอยาง1 สัปดาหกอนการทดลอง จากนั้นนทําการทดสอบเพื่อวัดการคิดวิจารณญาณกอนการทดลอง(Pre-test) โดยใชแบบทดสอบการคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยที่ผูวิจัยสรางขึ้น กับกลุมตัวอยางและดําเนินการทดลองดวยตนเอง 
จํานวน 8 สัปดาหเมื่ออดําเนินการทดลองครบ 8 สัปดาหนําแบบทดสอบการคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยมาทดสอบอีกครั้ง และนําขอมูลทที่ไดจากการทดสอบไปทําการวิเคราะหขอมูลดวยวิธีการทำสถิต

นางสาวยุภา ธรรมโครต 
เรื่อง ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของ
 ชื่อผู้วิจัย :ยุพาภรณ์ ชูสาย

           จะจัดกิจกรรมแบบเป็นการทดลองเปิดโอกาสให้เด็กทำกิจกรรมด้วยตนเอง เป้นการให้อิสระแก่เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองซึ่งครูคอยแนะนำและช่วยเหลือให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์และแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ด้วยการทดลอง เรื่องสีจากธรรมชาติ จะสอนในเรื่อง การสังเกต การจำแนก และการหามิติสัมพันธ์


ของเล่นวิทยาศาสตร์
ชื่อ : เรือหนังยาง




อุปกรณ์




-สก็อตเทป -ไม้ตะเกียบ -หนังสติ๊ก-การ์ด-กล่องนม-กรรไกร-กะละมัง


ขั้นตอนการทำ



1.เอากล่องมาแล้วเอาไม้ตะเกียบติดเข้าไปทั้ง 2 ข้าง          


            
         2. เอาสก็อตเทปมาพันไว้ พันให้แน่



      3.เอาหนังสติ๊กใส่การ์ดแล้วเอาสก็อตเทปพันไว                  



                         
    4.ได้การ์ดดังรูป
               
                        
5. เอาการ์ดมาใส่ต่อกับตัวเรือ 


                                       

 6. เปิดน้ำใส่กะละมังให้พอประมาณ




7. นำตัวเรือมาทดลอง

วิธีการเล่น
- หมุนการ์ดให้พอตามความต้องการของเรา แล้วก็ปล่อยตัวเรือไปข้างหน้า

ข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์

- พลังงานศักย์ยืดหยุ่น เป็นพลังงานที่สะสมอยู่ในสปิงหรือวัตถุยืดหยุ่นอื่นๆ ขณะที่วัตถุยืดตัวหมุน โดยตัวเรือและการ์ดจะทำปฎิกิริยากับน้ำแล้วเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

skills
- การใช้ความคิด คิดตามเพื่อให้เห็นภาพงานวิจัยที่เพื่อนพูด
- การใช้คำถามเพื่อที่เราจะได้เข้าใจในวิจัยที่เพื่อนนำเสนอ
- การนำเสนอสื่อด้วยคำพูดและวิธีการที่หลากหลายที่จะสื่อออกมาให้ฟังได้อย่างเข้าใจ

Appiy

                     - สามารถนำสิ่งประดิษฐ์ที่เพื่อนๆนำมาเสนอไปใช้ในการสอนเด็ก
                          -เกี่ยวกับทักษะกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์ในอนาคตได้
                                               - สามารถนำสิ่งประดิษฐ์ที่เราทำไปประยุกต์ใช้หรือปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับหน่วยต่างๆทางวิทยาศาสตร์

Teaching Techniques


- ให้นักศึกษามีความคิดที่หลากหลาย คิดนอกกรอบ

- รู้จักการนำเสนอสื่อของเล่นให้น่าสนใจเเละน่าเรียนรู้

- การใช้คำถามเพื่อโยงเข้าสู่หลกวิทยาศาสตร์


-ระดมความคิดกับเพื่อนในห้องเรียน



Assessment 
  Self   -  แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เข้าเรียนตรงต่อเวลา ร่วมทำกิจกรรมในห้องเรียน มีความรับผิดชอบ
Friends  - แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เข้าเรียนสาย ร่วมกันสังเคราะห์ - วิเคราะห์ สื่อ/ของเล่นที่เกี่ยวกับ                       วิทยาศาสตร์ที่เพื่อนๆนำมานำเสนอทุกคนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมภายในห้องเรียน

Teacher - แต่งกายสุภาพเรียบร้อยเข้าสอนตรงเวลา สอนเข้าใจง่าย นักศึกษามีส่วนร่วมในการเรียนคอยเพิ่มเติมเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ระหว่างนำเสนอ


วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558



บันทึกอนุทินครั้งที่ 6

วันอังคารที่ 15 กันยายน 2558

      Knowledge

- ทดสอบก่อนเรียน เรื่องการทำงานของสมอง







-การนำเสนอบทความ

- แนวคิดพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์

=> นางสาวสุจิตรา มาวงษ์ เลขที่24  เรื่อง แนวทางสอนคิด เติม วิทย์ ให้เด็กอนุบาล


        แนวทางในการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กมี 5 ข้อดังนี้

               1. ตั้งคำถามที่เด็กสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง 
               2. ออกไปหาคำตอบด้วยตัวเอง 


               3. เมื่อขั้นสองสำเร็จ เด็กจะเอาสิ่งที่เขาค้นพบมาไปตอบคำถามในขั้นนี้คุณครูอาจช่วย


                    เสริมในแง่ของความครบถ้วนสมบูรณ์หรือในด้านของเหตุและผล

               4. นำเสนอสิ่งที่เขาสำรวจตรวจสอบมาแล้วให้กับเพื่อน ๆ


               5. การนำสิ่งที่เด็กค้นพบคำตอบนั้นไปเชื่อมโยงกับคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ 

=> นางสาวประภัสสร สีหบุตร เลขที่23 เรื่อง เรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านนิทานของเด็กปฐมวัย 
 นิทานเป็นสื่อที่ดีในการใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ที่หาง่ายส่วนใหญ่นำเอามาเล่าให้เด็กฟังเพื่อความเพลิดเพลินแล้วก็จบไปแต่ที่ จริงแล้วนิทานเป็นสื่อที่ดี ช่วยให้เด็ก ๆ เรียนรู้ได้หลากหลาย คือ เรื่องของภาษา คำพูด เสียง ยิ่งนิทานที่มีคำซ้ำ ๆ เด็กจะฟังและเลียนแบบคำได้เทคนิคการเลือกนิทานให้เด็ก ควรเลือกให้เหมาะกับวัย เช่น เด็กเล็ก เริ่มจากเรื่องราวสิ่งใกล้ตัวที่เขาชอบ เช่น สัตว์ธรรมชาติ ภาพน่ารัก ๆ เลือกสีสัน และเนื้อหาที่ไม่ยาวเกินไปเด็ก ๆ 





หลักการ/ แนวคิดสู่การปฏิบัติการพัฒนาเด็ก






ความสำคัญของวิทยาศาสตร์

-ตอบสนองความต้องการตามวัยของเด็ก


-พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

-เสริมสร้างประสบการณ์



         ประโยชน์ของการเรียนวิทยาศาสตร์



-พัฒนาความคิดรวบยอด


-พัฒนาทีกษะการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์


-สร้างความเชื่อมั่นในตนเอง





Skills

      1.ฝึกระดมความคิดการตอบคำถามและการเสนอความคิดเกี่ยวกับการทำงานของสมอง


      2.การคิดวิเคราะห์  การสังเคราะห์



      3.การนำเสนอบทความต่างๆ



Teaching Methods

-อาจารย์มีการใช้คำถามกระตุ้นให้นักศึกษาคิดเปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นและอธิบายเพิ่มเติมจากการประดิษฐ์กระดาษของนักศึกษาและการทำMy mapping


Assessment

classroom - อากาศถ่ายเทสะดวก บรรยากาศในห้องเรียนเย็นสบาย จำนวนโต๊ะเก้าอี้เพียงพอต่อนักศึกษา เทคโนโลยียังไม่พร้อมต่อการใช้งาน เพราะไม่สามารถใช้Internet ได้ เนื่องจากเป็นวันแรกในการเข้าใช้ห้องเรียน
Self -  การตอบคำถาม การระดมความคิด และมีการจดบันทึกสรุปเนื้อหาที่อาจารย์ได้สอน
Friend - เข้าเรียนตรงเวลา มีการแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและช่วยกันตอบ                     คำถาม
Professor - อาจารย์มีความเป็นกันเอง บริหารเวลาในการสอนได้เหมาะสม มีการใช้คำถามที่หลากหลายในการถามนักศึกษา อาจารย์เพิ่มเติ่มจากคำตอบที่นักศึกษาได้ตอบไป





***หมายเหตุ ศึกษาจาก นางสาวชนาภา คะปัญญา ***